วิธีการพิมพ์ลายลงกระเป๋าผ้า

วิธีการพิมพ์ลายลงกระเป๋าผ้า

การมอบกระเป๋าผ้าพิมพ์ลายให้กับลูกค้าที่พวกเขาชื่นชอบการใช้กระเป๋าผ้า หมายความว่าพวกเขามักจะใช้มันทุกวันทำให้คุณมีโอกาสที่ดีในการที่จะให้แบรนด์สินค้าของเราเป็นที่รู้จักของผู้คนจำนวนมากขึ้นจากคนที่ได้มาเห็นแบรนด์สินค้าบนกระเป๋า

ทุกคนคงรู้ดีถึงคุณค่าของการพิมพ์ลายลงกระเป๋าผ้าที่เป็นข้อความหรือโลโก้แสดงแบรนด์สินค้าของคุณ แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่ากระเป๋าผ้าพิมพ์ลายนั้นมีวิธีกสรผลิตอย่างไร การพิมพ์ลายลงกระเป๋าผ้าแต่ละแบบจะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป โดยในแต่ละวิธีจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของผู้เลือกใช้ว่าต้องการใช้วิธีไหน วัสดุที่นำมาพิมพ์ลายอาจจะเลือกเป็นผ้าฝ้าย ผ้าใบปอหรือโพลีโพรพีลีนก็ได้

กระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้ของคุณจะแสดงให้เห็นถึงธุรกิจของคุณ จึงควรมีการออกแบบงานพิมพ์ลายให้ดีและสะดุดตา ทีมออกแบบของ Bag For Earth สามารถให้ความช่วยเหลือได้เพียงติดต่อทักเข้ามา


มาดูวิธีการพิมพ์ลายลงกระเป๋าผ้าที่แต่ละแบบ

งานรีดร้อน (heath transfer)

ใช้งานได้ดีกับการพิมพ์ลายลงเนื้อผ้า วิธีนี้ช่วยให้คุณมีรูปภาพหรือการออกแบบได้แทบทุกรูปแบบไม่ว่าจะซับซ้อนหรือมีจำนวนสีในกราฟฟิกมากแค่ไหน เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพหลากสี โดยวิธีการนี้จะออกแบบและพิมพ์ลงบนกระดาษชนิดพิเศษที่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ก่อน จากนั้นจึงนำกระดาษไปวางไว้บนกระเป๋าผ้า แล้วใช้เครื่องรีดร้อนที่เป็นแผ่นความร้อน กดทับลงบนกระดาษให้ติดกับเนื้อผ้า หมึกจากตัวกระดาษจะระเหยและถ่ายเทไปยังเนื้อผ้า ส่งผลให้กระเป๋าผ้ามีลายกราฟฟิกตามแบบที่ต้องการ พร้อมให้คุณออกไปโปรโมทธุรกิจของคุณ
 
งานสกรีนแบบพิมพ์โดยตรง (digital printing)
เป็นการพิมพ์งานที่พัฒนาไปอีกขั้นโดยเป็นการพิมพ์ภาพโดยตรงจากเครื่องพิมพ์ไปยังเนื้อผ้าด้วยเครื่องพิมพ์ผ้าโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า DTG (Direct  to Garment) การสกรีนวิธีนี้จะทำให้ได้ภาพที่สวยงามและชมชัด ไร้ข้อจำกัดเรื่องจำนวนสีของสีสกรีน แต่จะใช้เวลานานในการสกรีนแต่ละตัวและงบประมาณเครื่องที่ค่อนข้างสูง
 
งานสกรีนแบบซิลค์สกรีน (silk screen)
เป็นการพิมพ์งานลงบนเนื้อผ้าโดยใช้บล็อคสกรีน วิธีการนี้จำนำบล็อคสกรีนมาฉาบกวบเคลือบบล็อค จากนั้นจึงปล่อยให้กาวแห้งก่อนจะนำไปฉายแสงให้บล็อคสกรีนมีลายกราฟฟิกตามที่เราต้องการ การสกรีนแบบซิลค์สกรีนจะมีการกำหนดเป็น 1 สีต่อ 1 บล็อค ดังนั้นถ้าต้องการพิมพ์ 2 สี ก็จะต้องใช้บล็อคสกรีนทั้งหมด 2 บล็อค  เหมาะกับการสกรีนงานที่จำนวนสีไม่มาก แต่ต้องการความเร็ว การใช้บล็อคสกรีนเพียง 1 บล็อคเพื่อสกรีนงานเป็นจำนวนมากทำให้ต้นทุนในการสกรีนก็จะถูกลง